วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธีท่องศัพท์ฉบับเทพ!!!


วิธีท่องศัพท์ฉบับเทพ ตอนที่ 2
วิธีท่องศัพท์ฉบับเทพ!!! ตอนที่ 2
.
.
.
(ใครยังไม่อ่านตอนที่ 1 ไปอ่านก่อนคลิ๊กhttp://www.mindenglish.net/article/greatvocab1/มิฉะนั้น จะอ่านตอนนี้ไม่รู้เรื่อง)
.
.
จากตอนที่แล้ว ที่เราบอกทุกคนว่าวิธีท่องศัพท์ในระบบของ Mind English ว่าเราจะยุติการท่องศัพท์แบบดั้งเดิมที่เราทำตามๆกันมาตลอดการเรียนภาษาอังกฤษ 20 กว่าปี ซึ่งสุดท้ายก็พูดกับฝรั่งไม่ได้
.
มาใช้วิธีเรียนรู้ศัพท์ในระบบของ Mind English ที่เน้นการเรียนรู้เชิงลึกโดยใช้สมองซีกขวา หรือที่เราเรียกว่า Visualizing & Feeling
.
ซึ่งคือการนึกภาพคำนั้นเชื่อมโยงกับสิ่งที่มีอยู่จริงโดยไม่ต้องแปล และสัมผัสความรู้สึก สัมผัสถึงแสง สี รูปร่างของสิ่งนั้นให้ชัดเจ
.
ตอนที่แล้วยกตัวอย่างไปบ้างแล้ว ตอนนี้ของยกตัวอย่างอีกซักค
.
เช่นคำว่า Admonish คำนี้ถ้าให้แปลเป็นไทย อาจแปลว่า ว่ากล่าวตักเตือน แต่ถ้าแปลแล้วท่องตรงๆ นอกจากจะลืมง่าย เวลาจะใช้จริงนึกไม่ออกแล้ว ยังจะไม่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนี้ได้
.
การ Visualizing & Feeling ของคำนี้ ให้นึกถึงตอนเด็ก ที่เราติดดูการ์ตูนช่องเก้า แม่เรียกให้ไปอาบน้ำ เรียก 4-5 รอบเราก็ไม่ไหว แม่ก็ Admonish เรา
.
พอโตขึ้นมา เรียนหนังสือที่โรงเรียน ครูสอนๆไป เราก็แอบนั่งแชทไลน์ไป ซักพักครูเห็น ครูก็ Admonish เรา
.
ถ้าเราเข้าใจแบบจริงๆ เราต้องไม่จำ Admonish ในความหมายภาษาไทยเลย
.
หลักคือ จินตนาการให้เกิด Theatre of Mind ในสมองเราถึงสถานการณ์ของคำนี้ ยิ่งภาพในหัวเราชัดเท่าไหร่ เราจะจดจำคำว่า Admonish ได้ชัดขึ้นเท่านั้น และสามารถดึงคำนี้มาใช้สนทนาจริงได้ทันที
.
แต่เท่านั้นยังไม่พอ!!
.
ถ้าเราจะเรียนรู้คำศัพท์เพื่อใช้ในการพูด จำเป็นภาพอย่างเดียวไม่ได้
.
เราต้องรู้การออกเสียงของมันด้วย!
.
หลังจากเราเรียนรู้ศัพท์คำนั้นๆ จำเป็นภาพได้อย่างชัดเจนแล้ว สิ่งที่ตามมาจะต้องฝึกฟังคำนั้นๆและออกเสียงคำนั้นๆตามแบบที่ถูกต้อง
.
และเครื่องมือที่เราแนะนำที่เวิคสุดๆและที่สำคัญคือฟรี! (สำหรับคนที่มี Smartphone เท่านั้น)
.
นั่นคือ app ที่ชื่อว่า Google Translate นั่นเอง!!!! (ดาวน์โหลดได้ทั้ง App Store สำหรับ IOS และ Playstore สำหรับ Android)
.
แอพนี้ใช้ง่ายมากๆ คนอื่นๆมักจะใช้แอพนี้แปล แต่สำหรับ Mind English เราไม่!
.
แต่เราจะใช้ให้มันออกเสียงให้และฟังเสียงเรา (ว่าเราพูดถูกหรือเปล่า)
.
ขั้นแรก : กำหนดภาษาก่อน กำหนดแปลไทยเป็นอังกฤษ ย้ำนะครับ แปลไทยเป็นอังกฤษ
.
ขั้นที่สอง : ใส่คำที่เราต้องการรู้ว่าออกเสียงยังไงลงไป ในที่นี้ใส่คำว่า Admonish แล้วก็กดแปล
.
พอกดปุ๊บ มันจะขึ้นคำว่า Admonish อีกครั้ง แต่มันจะไม่ขึ้นคำแปลอะไร 555+ อ้าว – -
.
เพราะเราใส่แปลไทยเปฺ็นอังกฤษ ไม่ใช่ให้อังกฤษเป็นไทย มันเลยไม่แปลอะไรให้เรา ขึ้นแต่คำเดิมที่เราใส่ไป คือคำว่า Admonish (ถ้าพิมพ์ Admonish ไปแล้วมันขึ้นคำแปลภาษาไทยหราเลย แปลว่าคุณตั้งค่าแปลอังกฤษเป็นไทยแล้ว ต้องตั้งค่าแปลจากภาษาไทยไปเป็นภาษาอังกฤษ
.
ขั้นที่สาม : สังเกตด้านขวาสุดจะปุ่มให้กดรูปลำโพง พอกดปุ๊บ app จะออกเสียงแบบเจ้าของภาษาให้ฟัง แนะนำให้ลองฟังเฉยๆซัก 5 รอบ
.
ขั้นที่ 4 : หลังจากฟังไปแล้ว 5 รอบ รอบที่ 6 แนะนำให้ลองพูดตาม วิธีพูดตามคือ สลับการแปลจากเดิมไทยไปอังกฤษ ให้เปลี่ยนเป็นอังกฤษเป็นไทย ซึ่งช่องที่ให้ใส่คำศัพท์จะมีปุ่มรูปไมโครโฟน พอกดปุ๊บเราก็ออกเสียงตาม ถ้าเราออกเสียงถูก คำศัพท์จะขึ้นถูกต้องตามนั้นว่า Admonish
.
ถ้าออกเสียงเพี้ยนไป ศัพท์ก็จะออกมาเป็นคำอื่น อย่างแย่ที่สุด app ก็จะบอกว่า Didn’t get that. แปลเป็นภาษาไทยคือ (กู)ฟัง(มึง)ไม่รู้เรื่อง!
.
อย่างคำในตัวอย่างนี้ Admonish ถ้าออกเสียงตรงๆ แอ๊ด-โม-นิช แล้วให้ผลลัพธ์ออกมาตรงคำยากมากๆๆ (ใครอ่านได้ตรงคำแปลว่าสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษามาก)
.
จริงๆการฝึกแนะนำให้เริ่มจากคำง่ายๆ อย่าง Hello, Thank you, Cat, Dog etc. ก่อน แล้วค่อยๆไล่ๆไต่ระดับไปเรื่อยๆ
.
แต่สิ่งที่อยากบอกและอยากเน้นคือ อย่าไปซีเรียสมาก หากตัวเองพูดยังไง app ก็ยังฟังไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะเวลาสถานการณ์จริง คนพูดภาษาอังกฤษคล่อง ก็ออกเสียงคำบางคำไม่ชัดเป๊
.
เพราะฝรั่งสามารถคาดเดาจากบริบทหรือเรื่องราวที่คุย ซึ่งทำให้เข้าใจคำนั้นๆได้ ถ้าให้เปรียบ ก็คงคล้ายกับเด็กเสิร์ฟชาวพม่า หรือชาวลาวที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด แต่เราคนไทยก็พอฟังเข้าใจ
.
แบบฝึกการฟัง-พูดคำศัพท์อันนี้ แค่อยากให้พวกเราแค่เข้าใจว่าคำนั้นๆออกเสียงประมาณไหน ถ้าสุดท้ายแล้วออกเสียงเลียนแบบแล้ว แรกๆ app ยังไม่เข้าใจก็ช่างมัน เพราะเราฝึกเพื่อไปพูดกับคน ไม่ใช่ app
.
แต่ถ้าเราฝึกไปเรื่อยๆเราจะเริ่มออกเสียงคำถูกต้องขึ้นเรื่อยๆเอง
.
ถ้าใครอ่านตอนที่ 1 จนไล่มาถึงบรรทัดนี้ ขอให้เข้าใจตรงกันว่า Visualizing & Feeling สำคัญที่สุด เพื่อให้เราเห็นภาพของคำศัพท์นั้นๆ และเรียนรู้การใช้ app ใน Smartphone เพื่อให้เข้าใจการออกเสียงของคำนั้นๆ
.
บางคนถามว่า “เอ้อ! ถ้าจำเป็นภาพ แล้วเวลาจดศัพท์กันลืมล่ะ จะจดยังไงดี จดศัพท์ใส่ความหมายแบบตอนเรียนติวเพื่อไปสอบแอดมิชชั่นได้ไหม”
.
ไม่ได้ครับ! ห้ามเด็ดขาด บทความตอนหน้า จะเผยวิธีจดคำศัพท์ที่เทพที่สุดในโลก! ห้ามพลาดเด็ดขาด พูดเลย!
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น